3 รูปแบบจากวัสดุ ‘Aluminium Honeycomb Panel’ ที่ช่วยยกระดับการออกแบบผิวอาคาร

การออกแบบพื้นที่ส่วนผิวอาคาร (Façade) มีส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มความสวยงาม และการใช้งานของอาคารโดยรวม ซึ่งมาจากการวิเคราะห์พื้นฐานที่เหมาะสมตามบริบทของธรรมชาติโดยรอบ การเลือกใช้วัสดุและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งต้องสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมตามรูปแบบของสถาปัตยกรรมในท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อรักษาความกลมกลืนทางภูมิทัศน์ของเมือง โดยเลือกใช้วัสดุที่มีความสวยงาม และมีความยืดหยุ่นต่อแนวคิดที่หลากหลาย ผ่านการเลือกใช้พื้นผิว สีสัน และลวดลายเพื่อดึงดูดความน่าสนใจ และถ่ายทอดเอกลักษณ์ของอาคารได้ รวมไปถึงต้องมีความทนทาน มีการการบำรุงรักษาที่ต่ำ และเป็นวัสดุที่มีความยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการออกแบบในยุคปัจจุบัน การยกระดับของอาคารให้สูงขึ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสวยงามหรือการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการก่อสร้างเท่านั้น แต่แนวคิดในการเพิ่มประสิทธิภาพของอาคาร ผ่านความสะดวกสบายของผู้ใช้งานเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ต้องแสดงออกผ่านองค์ประกอบในการตกแต่งอาคารได้ด้วย ตัวอย่างเช่น การเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับพื้นที่ภายใน หรือการใช้ระบบระบายอากาศแบบธรรมชาติ ที่ต้องสอดคล้องไปกับแนวคิดของการออกแบบผิวอาคารให้สวยงาม

ซึ่งหนึ่งในวัสดุนวัตกรรมใหม่ อย่าง Aluminium Honeycomb Panel (AHP) จาก FAMELINE สามารถตอบโจทย์ทุกคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น ด้วยรูปแบบของแผ่นอลูมิเนียมประกบ ที่มีไส้กลางเป็นโครงสร้างแบบรังผึ้ง (Honeycomb) ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างแผ่นมากขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยเสริมเสถียรภาพด้านความแข็งแกร่งทั่วทั้งแผ่น และยังมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่นเมื่อเทียบในขนาดที่เท่ากัน สามารถออกแบบให้มีขนาดแผ่นใหญ่พิเศษได้ ซึ่งไส้กลางรูปทรงรังผึ้งยังมีประโยชน์ในด้านการเป็นฉนวนกันเสียงและกันความร้อนได้ดี สามารถป้องกันอัคคีไฟตามมาตรฐานยุโรป EN 13501-1 มีคุณสมบัติไม่ติดไฟ ในระดับ Class A2 (Fire Rating) ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในอาคารขนาดใหญ่ ทั้งอาคารสูง โรงแรม คอนโดมิเนียม สถานศึกษา สนามกีฬา สถานีรถไฟ หรือสนามบิน

ซึ่งทาง FAMELINE มีมาตรฐานในการได้ร้บการรับรองว่า AHP เป็นวัสดุที่ผลิตในประเทศไทย (Made in Thailand: MiT) สามารถเลือกวิธีการปิดขอบแผ่น ตัดแผ่น พับขึ้นรูป เพื่อให้ตอบโจทย์กับแนวคิดในการออกแบบ และเหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน โดยเลือกใช้เป็นแผ่นอลูมิเนียมเกรด Series 3000 ที่ตัวแผ่นสามารถรับน้ำหนักต่อแรงกดและทนทานต่อแรงลมได้ดี มีความหนาของแผ่นให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 6-50 มิลลิเมตร ใช้ระบบการเคลือบสีแบบ PVDF (Polyvinylidene Fluoride Resin Coating) ซึ่งเป็นระบบการเคลือบสีที่มีคุณภาพสูงสุด เพื่อเพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศ สภาวะกรด-ด่าง และมลภาวะต่างๆ ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนาน มีการรับประกันคุณภาพสีนาน 10-20 ปี (ขึ้นอยู่กับเฉดสีที่เลือกใช้) และที่สำคัญวัสดุอลูมิเนียมยังสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ช่วยประหยัดทรัพยากร ลดการใช้พลังงาน และลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เป็นวัสดุที่มีความยั่งยืน และส่งเสริมการออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

AHP: Mega Cladding

แนวทางในการออกแบบผิวอาคารทั้ง 3 รูปแบบ ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน

1. Mega Cladding:

คือ การปิดผิวอาคารด้วยวัสดุผืนใหญ่พิเศษแบบต่อเนื่องกัน ที่สื่อสารถึงความโอ่โถงทันสมัย ด้วยเส้นสายที่สะอาดตาและมีรอยต่อน้อย ทำให้ผิวอาคารดูเรียบเนียนและเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น เหมาะสมกับสัดส่วนของอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งในด้านการใช้งาน เมื่อมีรอยต่อระหว่างแผ่นน้อยกว่า ก็ช่วยลดจุดซึมน้ำของวัสดุ ทำให้ลดต้นทุนการบำรุงรักษา และยืดอายุการใช้งานของผนังอาคาร ซึ่งวัสดุ AHP ยังสามารถทนทานต่อแรงลม และความแปรปรวนของอุณหภูมิจากภายนอก ในขณะเดียวกันก็ช่วยห่อหุ้มอาคาร (Cladding) เพื่อควบคุมอุณหภูมิของพื้นที่ภายในได้ด้วย

AHP: Mega Fin Structure
AHP: Mega Fin Structure

2. Mega Fin Structure:

มีลักษณะเป็น โครงสร้างแบบครีบอลูมิเนียมขนาดใหญ่ ที่เรียงตัวเป็นจังหวะได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนบริเวณผิวอาคาร ซึ่งต่อเนื่องกันตามสัดส่วนและตำแหน่งที่เหมาะสม เพิ่มความโดดเด่นและมีชีวิตชีวา ตามรูปแบบของสถาปัตยกรรมร่วมสมัย สามารถช่วยบดบังและควบคุมปริมาณแสงแดดที่เข้าสู่พื้นที่ภายใน ทำให้ผู้ใช้งานภายในได้ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ และได้ร่มเงาที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงวัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงานของอาคาร นำไปสู่การลดต้นทุนด้านพลังงานอย่างยั่งยืน

AHP: Link Form Facade

3. Link Form Facade:

เป็นรูปแบบของการปิดผิวอาคาร ที่ใช้ลักษณะการเชื่อมต่อกันของเส้นสายแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยเพิ่มองค์ประกอบของความสวยงามแบบมีการเคลื่อนไหว และสร้างจุดดึงดูดทางสายตาให้กับอาคาร ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้ ต้องมีการกระจายน้ำหนักไปทั่วทั้งบริเวณผิวอาคาร ทำให้ต้องใช้วัสดุที่ยืดหยุ่น มีน้ำหนักเบา และปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ดี ซึ่งความเหมาะสมของวัสดุ AHP ยังสะดวกกว่าในเรื่องการติดตั้ง จากการผลิตเป็นชิ้นส่วนสำเร็จรูปจากโรงงาน และนำมาประกอบเข้าด้วยกันที่หน้างานอย่างแม่นยำ ทำให้การก่อสร้างมีความรวดเร็วและได้ประสิทธิภาพ

แน่นอนว่าคุณสมบัติของวัสดุปิดผิวอาคาร ต้องสื่อสารถึงแนวคิดในการออกแบบ และพื้นที่การใช้งานภายใน ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าของวัสดุ AHP จึงทำให้สามารถออกแบบรูปทรงที่มีความทันสมัยและซับซ้อนได้ดี สามารถดัดโค้งตามรูปทรงของสถาปัตกรรมสมัยใหม่ หรือทำไปตกแต่งด้วยด้วยพื้นผิวและสีสันที่หลากหลาย ตามแนวคิดในการออกแบบอาคารให้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง โดยเฉพาะการขึ้นเป็นรูปทรงที่แปลกใหม่ เพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ของผิวอาคารให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีส่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านทานความร้อน ควบคุมคุณภาพของเสียง และรักษาสภาพแวดล้อมภายในอาคารให้สะดวกสบาย พร้อมทั้งช่วยลดการใช้พลังงาน และสร้างความยั่งยืนให้กับอาคารสมัยใหม่ได้อีกด้วย

สามารถดูรายละเอียด Aluminium Honeycomb Panel เพิ่มเติมได้ที่ >>> AHP Product Brochure


บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า