‘Modular Construction’ อนาคตของการก่อสร้าง กับวัสดุแผ่นผนังตกแต่งภายนอก ‘FAMELINE NICHIHA’

‘การก่อสร้างแบบโมดูลาร์ (Modular Construction)’ เป็นกระบวนการที่ผลิตชิ้นส่วนที่ใช้ในการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปจากโรงงาน ซึ่งโครงสร้างเหล่านี้จะประกอบด้วยหน่วยสำเร็จรูปขนาดเล็กที่เรียกว่า “โมดูล” ซึ่งจะถูกประกอบเข้าด้วยกันหลังจากขนส่งมาถึงไซต์งาน โดยแบ่งออกเป็นอาคารโมดูลาร์แบบถาวร กับอาคารโมดูลาร์แบบเคลื่อนย้ายได้ สำหรับโครงการที่ใช้งานแบบชั่วคราว

ตัวอย่างเช่น ในช่วงที่โควิดระบาดในประเทศจีน มีการก่อสร้างโรงพยาบาลฉุกเฉินขนาด 1,000 เตียง ในเมืองอู่ฮั่น ที่สร้างเสร็จภายใน 11 วัน ซึ่งใช้วิธีการก่อสร้างแบบโมดูลาร์ โดยเป็นหน่วยของห้องพักที่สร้างสำเร็จรูปและนำมาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการทางการแพทย์ ในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในสหรัฐอเมริกา ก็มีการก่อสร้างอาคารด้วยระบบโมดูลาร์เช่นกัน โดยสามารถลดระยะเวลาการก่อสร้างลงได้ถึง 30-40% เมื่อเทียบกับวิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิม

นอกจากนี้ยังช่วยลดของเสียจากการก่อสร้าง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในบรรยากาศ ด้วยการลดจำนวนการขนส่งและระยะเวลาที่ใช้ในไซต์งาน เนื่องจากการผลิตชิ้นส่วนในโรงงาน สามารถทำงานควบคู่ไปกับการเตรียมพื้นที่หน้างาน ซึ่งการผลิตที่เกิดขึ้นในโรงงานก็ช่วยลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศและปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการก่อสร้าง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพในการผลิตได้สม่ำเสมอ และมีการพัฒนารูปแบบของชิ้นส่วนมาตรฐาน ให้สามารถปรับแต่งการออกแบบ ให้ตอบสนองต่อการใช้งานของผู้คนได้มากขึ้น

พัฒนาการของการก่อสร้างแบบโมดูลาร์ – จากอดีตสู่อนาคต:

การก่อสร้างด้วยระบบโมดูลาร์นั้น มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องในวงการสถาปัตยกรรม ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของมนุษย์ ในการก่อสร้างอาคารให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากจุดกำเนิดแนวคิดนี้ตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 12 ที่ชาวนอร์มันมีการสร้างปราสาทแบบถอดประกอบได้ จนมาถึงในปี 1851 ที่มีการก่อสร้างอาคารนิทรรศการขนาดใหญ่ในประเทศอังกฤษอย่าง ‘Crystal Palace’ ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านการก่อสร้างที่รวดเร็ว โดยใช้ชิ้นส่วนมาตรฐาน (Prefabricated Components) ของเหล็กและแผ่นกระจก มาประกอบเป็นอาคารขนาดใหญ่ในระยะเวลาเพียง 9 เดือน (ถือว่าก่อสร้างได้เร็วมากในสมัยนั้น)

จนมาถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ก็มีอาคารโมดูลาร์อย่าง Torten Estate, Habitat 67, Nakagin Capsule Tower หรือ Dyson Institute Village ที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบ จนการก่อสร้างด้วยระบบโมดูลาร์เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากขึ้นในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น บ้านเดี่ยวในประเทศสวีเดนก่อสร้างด้วยระบบสำเร็จรูปถึง 84% รองลงมาคือในประเทศญี่ปุ่น 28% และประเทศเนเธอร์แลนด์ 20% ซึ่งปัจจัยสำคัญก็คือนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของการก่อสร้าง และระบบซอฟต์แวร์ในการออกแบบที่เกี่ยวข้อง ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ การสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร และการพัฒนาวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ ที่ทำให้สามารถออกแบบสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ ได้ซับซ้อนและสวยงามได้มากกว่าที่เคย

ทำไม FAMELINE NICHIHA จึงเหมาะกับการก่อสร้างแบบโมดูลาร์?:

ซึ่งคุณสมบัติของวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้างด้วยระบบโมดูลาร์ ก็ต้องมีความแข็งแรงเพียงพอในการรองรับแรงกด แรงดึง และแรงกระแทก เพื่อใช้งานกับอาคารที่ต้องขนส่งและประกอบเป็นโมดูล และต้องเป็นวัสดุที่ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนและแรงลม ซึ่งเป็นการลดความเสียหายในระหว่างขนส่ง และจะช่วยให้โครงสร้างมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และต้องเป็นวัสดุที่เหมาะสมกับการติดตั้งด้วยระบบแห้ง ที่ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพละรวดเร็วมากกว่าเดิม อย่างแผ่นผนังตกแต่งสำเร็จรูป ‘FAMELINE NICHIHA’ ที่ผลิตจากวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น มีรูปแบบของพื้นผิวให้เลือกหลากหลายมากถึง 181 รูปแบบ มีทั้งผิวสัมผัสเรียบเนียนหรือผิวสัมผัสแบบธรรมชาติ เช่น ลายไม้ ลายหิน ที่มีทั้งโทนสีอ่อนสบายตา โทนสีเข้มที่ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูด หรือสีสันสดใสเพิ่มความมีชีวิตชีวา มีการเคลือบสีของแผ่นด้วยระบบ ‘Platinum Coating’ ที่ทำให้มีสีสันสวยทนทานตลอดอายุการใช้งาน

ใช้ระบบการติดตั้งแบบคลิปล็อคร่วมกับโครงเหล็กหรือโครงอลูมิเนียม โดยไม่ต้องใช้การเจาะตะปูหรือกาวซีเมนต์ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและลดความผิดพลาดในงานก่อสร้าง สามารถติดตั้งให้ผนังเรียบเนียนเป็นผืนเดียวกันแบบรอยต่อน้อยด้วยระบบลิ้นและร่อง (Tongue and Groove) มีความทนทานต่อสภาพอากาศ เชื้อรา ความชื้น และการสึกหรอ ช่วยปกป้องผนังของอาคารให้ปลอดภัยจากทุกสภาพอากาศ ซึ่งการเว้นช่องว่างระหว่างผนัง ทำให้เกิดการระบายอาการตามธรรมชาติ ช่วยลดการใช้พลังงานในอาคาร และส่งผลไปถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ใช้งาน

คุณสมบัติของ FAMELINE NICHIHA โดยสรุป:

  • มีดีไซน์ให้เลือกมากถึง 181 แบบ – ทั้งลายไม้ ลายหิน และพื้นผิวเรียบเนียน
  • เคลือบสีด้วยเทคโนโลยี Platinum Coating – ทำให้สีสวยทนทานตลอดอายุการใช้งาน
  • ติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิปล็อค – ไม่ต้องใช้ตะปูหรือกาวซีเมนต์ ลดเวลาการทำงาน
  • เชื่อมต่อรอยต่อเรียบเนียน – ด้วยระบบลิ้นและร่อง (Tongue and Groove)
  • ทนต่อทุกสภาพอากาศ – ความชื้น และเชื้อรา ช่วยปกป้องอาคารให้ดูใหม่อยู่เสมอ
  • มีช่องว่างระหว่างแผ่นผนังและโครงสร้าง – ช่วยให้เกิดการระบายอากาศตามธรรมชาติ ลดการใช้พลังงานในอาคาร
‘ALPINE’ Series Modular House, Esara Living

นวัตกรรมการก่อสร้างแบบโมดูลาร์เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน:

นอกจากนี้ FAMELINE NICHIHA ยังมีคุณสมบัติในด้านการทำความสะอาดตัวเองได้ (Self-Cleaning) จากเทคโนโลยี ‘NICHI GUARD’ โดยมีการเคลือบผิวของแผ่นด้วยชั้นโมเลกุลของน้ำ (Hydrophilic Coating) ช่วยลดการเกาะติดของฝุ่นและคราบสกปรก จากความสามารถชำระล้างออกได้โดยง่าย เมื่อมีฝนตกหรือฉีดน้ำเข้าไปที่แผ่นผนัง ทำให้ผนังดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ เหมาะสมกับการนำมาใช้งานเป็นผนังภายนอกของบ้านหรืออาคารพักอาศัย โรงแรม ร้านอาหาร สำนักงาน โรงพยาบาล หรือโรงเรียน นับว่าเป็นนวัตกรรมของวัสดุการก่อสร้างแบบโมดูลาร์ ที่ช่วยประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการลดของเสียจากการก่อสร้าง และเพิ่มความปลอดภัยให้กับแรงงาน เป็นรูปแบบของการก่อสร้างที่มีความยืดหยุ่นกว่ารูปแบบดั้งเดิม เนื่องจากสามารถติดตั้งหรือรื้อถอนได้สะดวกมากขึ้น และยังสอดคล้องกับแนวคิดของสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน (Sustainable Architecture) เนื่องจากสามารถลดปริมาณขยะจากการก่อสร้าง ลดการใช้พลังงาน และลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์อัตโนมัติ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในกระบวนการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนโมดูล ทำให้การก่อสร้างมีความถูกต้องแม่นยำ และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละโครงการได้มากขึ้น ทำให้ระบบการก่อสร้างแบบโมดูลาร์ กำลังก้าวขึ้นมาเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการก่อสร้าง สำหรับเมืองในอนาคตที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

‘ALPINE’ Series Modular House, Esara Living

แหล่งอ้างอิง:

สามารถดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่:

สามารถติดตามช่องทางอื่นๆ ได้ที่นี่:


บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า