ออกแบบ วัสดุตกแต่งฝ้า‘ ให้ตอบโจทย์กับพื้นที่ใช้งานและความสวยงาม

เมื่อพูดถึงการออกแบบอาคารหรือบ้านพักอาศัย ‘ฝ้าเพดาน’ เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อความสวยงามโดยรวม และส่งผลกับการใช้งานของพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงต้องมีการเลือกใช้วัสดุหรือรูปแบบของฝ้าเพดานที่เหมาะสม ซึ่งหน้าที่ของฝ้าเพดานนั้น นอกจากจะใช้ปกปิดโครงสร้างและงานระบบด้านบน เช่น คานคอนกรีต คานเหล็ก สายไฟ หรือท่อน้ำแล้ว ยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่ ช่วยในการปรับปรุงคุณภาพเสียง ทนต่อความชื้น หรือทำหน้าที่เป็นฉนวนในตัวเองได้อีกด้วย

ดังนั้น การเลือกวัสดุฝ้าเพดานที่เหมาะสม สำหรับลักษณะในการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะมีผลกระทบอย่างมาก ต่อความสะดวกสบายในการใช้งานและสไตล์ในการตกแต่งพื้นที่ ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติและประโยชน์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป วัสดุโดยทั่วไปที่มักนำมาตกแต่งฝ้าเพดานอย่าง อลูมิเนียม ยิปซั่ม ไม้ ไฟเบอร์ซีเมนต์ กระเบื้อง หรือโลหะอื่นๆ ก็อาจมีลักษณะที่เหมาะสมในบางพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ยิปซัมสำหรับช่วยดูดซับเสียง ก็เหมาะสมสำหรับการใช้งานในห้องประชุม หรือฝ้าลายไม้ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับอาคารพักอาศัย เนื่องจากความสวยงามที่ดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ

เรื่องของขนาดและสัดส่วนของวัสดุฝ้าเพดาน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่นักออกแบบไม่ควรมองข้าม ซึ่งก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน เช่น ขนาดและความสูงของพื้นที่ใช้งาน สไตล์หรือความสวยงามในการออกแบบที่ต้องการ รวมถึงวัตถุประสงค์ของการใช้พื้นที่นั้นๆ เช่น โถงอาคารขนาดใหญ่ ก็ควรเลือกใช้ฝ้าที่มีขนาดใหญ่พิเศษที่มีรอยต่อน้อย เพื่อเน้นสร้างความรู้สึกที่โอ่โถงกว้างขวาง หรือการตกแต่งสไตล์คลาสสิกอาจต้องการฝ้าเพดานที่ดัดโค้งได้ เพื่อให้มีรูปทรงที่ตอบรับกับองค์ประกอบอื่นๆ ส่วนการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นหรือร่วมสมัย ก็ต้องการฝ้าเพดานที่เรียบง่ายแต่ก็มีความโฉบเฉี่ยวน่าค้นหา

ปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้วัสดุฝ้าเพดาน

 

แน่นอนว่า รูปลักษณ์ที่สวยงาม ย่อมเป็นปัจจัยต้นๆ ในการเลือกใช้งานวัสดุฝ้าเพดานสำหรับนักออกแบบหรือเจ้าของโครงการ วัสดุที่แตกต่างกันก็ย่อมมีรูปแบบและพื้นผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถใช้จุดเด่นของแต่ละวัสดุ ในการสร้างเอฟเฟ็กต์ของมุมมอง ความรู้สึก และแสงเงาที่แตกต่างกันได้ ตัวอย่างเช่น ฝ้าเส้นตรงลายไม้ ช่วยสร้างความรู้สึกที่เรียบง่ายและอบอุ่น ในขณะที่ฝ้าแบบฉาบเรียบไร้รอยต่อ ก็เน้นสร้างความรู้สึกที่ต่อเนื่อง ไม่หวือหวา เพื่อให้พื้นที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

ส่วน ปัจจัยเรื่องของความทนทาน มักมีผลกับลักษณะของพื้นที่ใช้งานโดยตรง เช่น พื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีโอกาสเกิดคราบสกปรกได้ง่ายอย่างห้องน้ำหรือห้องครัว พื้นที่กึ่งภายนอกภายใน ที่ต้องสัมผัสกับแดด ลม ฝน อยู่ตลอดเวลา จึงต้องเลือกใช้งานฝ้าที่มีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ มีรูปทรงที่แข็งแรง ไม่โก่งงอหรือตกท้องช้าง และควรเลือกรูปแบบที่สัมพันธ์กับการตกแต่งภายในได้ด้วย

Linear Ceiling
Tile and Plank Ceiling

ส่วน ปัจจัยในด้านการใช้งานอื่นๆ อย่างคุณสมบัติทางเสียง ในกรณีที่ต้องการลดเสียงสะท้อนในห้องประชุม หรือห้องสัมมนา หรือมาตรฐานด้านการทนไฟ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับอาคาร โดยเฉพาะกับอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ หรือปัจจัยในด้านการบำรุงรักษา ซึ่งต้องเลือกใช้งานวัดสุที่ดูแลรักษาง่าย ตั้งแต่ขั้นตอนการขนส่ง ติดตั้ง การทำความสะอาดระหว่างการใช้งาน หรือการปรับเปลี่ยนแผ่นฝ้าเมื่อเกิดการชำรุดเสียหาย ตัวอย่างเช่น การเลือกใช้ฝ้าแบบ Tile & Plank ที่สามารถปรับเปลี่ยนแผ่นฝ้าได้แบบเฉพาะจุด ไม่กระทบกับภาพลักษณ์โดยรวม หรือเลือกใช้ฝ้าที่มีพื้นผิวเปนโลหะ ที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

เมื่อคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้แล้ว นักออกแบบก็สามารถเลือกวัสดุฝ้าเพดานที่ตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งในด้านการใช้งานและความสวยงาม โดยพิจารณาร่วมกับงบประมาณของเจ้าของโครงการ ซึ่งอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญก็คือ ความคุ้มค่าในการลงทุน โดยเลือกใช้วัสดุที่มีอายุการใช้งานยาวนาน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานภายในอาคาร หรือการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รักษาทรัพยากรธรรมชาติ โดยเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100% ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ส่งเสริมความยั่งยืนของสถาปัตยกรรม และรักษาสภาพแวดล้อมโดยรอบไปพร้อมๆ กัน

วัสดุตกแต่งฝ้า’ ที่ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน

 

จากปัจจัยในการเลือกใช้งานวัสดุฝ้าเพดานที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ก็มีวัสดุที่นักออกแบบนิยมเลือกใช้งานได้ อย่างวัสดุ ‘อะลูมิเนียม’ ที่มีคุณสมบัติด้านความโดดเด่นสวยงาม มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ มีความแข็งแรง ทนทานทุกสภาพอากาศ ทนความชื้นได้ ไม่ผุกร่อน ไม่เป็นสนิม ไม่ลามไฟ ทำความสะอาดได้ง่าย ติดตั้งและปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว ซึ่งฝ้าอลูมิเนียมจากแบรนด์ FAMELINE ก็มีรูปแบบให้เลือกได้ครอบคลุมกับทุกพื้นที่การใช้งาน

หากต้องการได้มุมมองที่ยาวต่อเนื่องกัน ในแบบที่ยังมีความทันสมัยและมีสไตล์ ก็ต้องเลือกใช้ ‘ฝ้าอลูมิเนียมแบบเส้น (Linear Ceiling)’ ที่สามารถออกแบบขนาดหน้ากว้างของแผ่นฝ้า และขนาดของช่องว่างระหว่างแผ่น ให้สัมพันธ์กับสัดส่วนของตำแหน่งที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น ฝ้ารุ่น 85C และ 85F ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับงานบ้านพักอาศัย ที่ใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร โดยเลือกใช้ความยาวแผ่นฝ้าได้สูงสุดถึง 6 เมตร และมีสีสันให้เลือกใช้งานมากถึง 14 เฉดสี ทั้งกลุ่มสีลายไม้ธรรมชาติ (Wood Colors) กลุ่มสีโลหะ (Metallic Color) และกลุ่มสีพื้นเรียบ (Basic Colors)

Linear Ceiling
Tile and Plank Ceiling

หรือแผ่นฝ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานภายในอาคารสำนักงาน ห้องประชุม ห้องโถง โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือสนามบิน ที่ต้องการสัดส่วนของแผ่นฝ้าขนาดใหญ่ ก็เหมาะสมกับฝ้าในกลุ่ม ‘Tile & Plank Ceiling’ หรือ ฝ้าแบบแผ่น ที่สามารถเปิด-ปิดแผ่นฝ้า เพื่อขึ้นไปซ่อมบำรุงงานระบบด้านบนได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ยังมีรุ่นที่สามารถทนทานต่อความชื้น หรือพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย และทำหน้าที่เป็น ‘Acoustic Ceiling’ โดยเป็นลักษณะแบบแผ่นเจาะรู ที่ติดตั้งร่วมกับแผ่นดูดซับเสียง ช่วยลดเสียงสะท้อนภายในอาคาร ด้วยคุณสมบัติการดูดซับเสียงได้สูงสุดถึง 80% เพิ่มคุณภาพในด้านการสื่อสารได้เป็นอย่างดี

ส่วนในพื้นที่ที่มีการจัดวางงานระบบด้านบนฝ้า ซึ่งเป็นภาพที่ควรปกปิดให้มิดชิด แต่ก็ต้องการรูปแบบฝ้าที่ดูทันสมัยและระบายความร้อนได้ดี ก็สามารถเลือกใช้งานฝ้ารุ่น  ‘Open Decorative Ceiling’ หรือ ฝ้าตกแต่งเพื่อปกปิดงานระบบ ที่มีทั้งแบบเส้นตรง แบบตะแกรง และแบบตาราง ทำให้สามารถออกแบบลวดลายของฝ้าได้อย่างต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อ ติดตั้งและถอดประกอบใหม่ได้ง่าย สามารถกลมกลืนไปกับการออกแบบฝ้าได้หลากหลายสไตล์ ใช้งานได้ทั้งภายใน-ภายนอกอาคาร มีสัดส่วนที่เหมาะสมกับอาคารขนาดใหญ่ อย่างเช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสนามบิน

Open Decorative Ceiling

สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์: http://m.me/famelinegroup

ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์: https://lin.ee/gXR26yi

ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม: https://anyflip.com/bookcase/nnddd

บทความที่เกี่ยวข้อง

Article

เปลี่ยนโฉม โดดเด่น เน้นใช้งาน… ทำไมถึงต้องรีโนเวทฟาซาดอาคาร?

นักออกแบบมักจะใช้วิธีการปรับปรุง/ต่อเติมพื้นที่ส่วนฟาซาด เพื่อแก้ปัญหาหรือเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาคาร แต่เงื่อนไขของแต่ละอาคารนั้นย่อมต่างกันออกไป จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า เราควรปรับปรุงฟาซาดอาคารบ่อยแค่ไหน …แล้วทำไมเราถึงต้องรีโนเวทฟาซาดอาคาร?

Article

‘Aluminium Louver’ เคล็ด(ไม่)ลับกับการออกแบบ แผงบังแดด/ระแนงตกแต่ง

การตกแต่งบริเวณผิวอาคาร ให้มีการระบายอากาศได้ตามธรรมชาติ เสมือนให้อาคารได้ ‘หายใจ’ โดยการเลือกตกแต่งด้วย ‘แผงบังแดด’ หรือ ‘ระแนงตกแต่ง’ ซึ่งเป็นทางเลือกที่เรียบง่าย แต่ทรงพลังอย่างมากในด้านการใช้งาน

Article

ทำความรู้จัก Chat GPT กับการปรับตัวของ(มนุษย์)สถาปนิก

การเปิดตัวแชทบอทใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง ChatGPT เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากวงการนักออกแบบและสถาปนิก ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า AI ประเภทนี้ จะส่งผลต่อวิชาชีพสถาปัตยกรรมในอนาคตได้อย่างไรบ้าง?

Article

ออกแบบ ‘วัสดุตกแต่งฝ้า’ ให้ตอบโจทย์กับพื้นที่ใช้งานและความสวยงาม

เมื่อพูดถึงการออกแบบอาคารหรือบ้านพักอาศัย ‘ฝ้าเพดาน’ เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญ ที่ส่งผลต่อความสวยงามโดยรวม และส่งผลต่อการใช้งานของพื้นที่เป็นอย่างมาก ซึ่งนักออกแบบต้องมองหาวัสดุที่สามารถตอบโจทย์ ปัจจัยสำคัญในการออกแบบฝ้าเพดานได้อย่างครบถ้วน

Article

เจาะลึกวัสดุ ‘Aluminium Honeycomb Panel’ น้ำหนักเบากว่า… แต่ทำไมยังแข็งแรงและทนทาน

ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมการก่อสร้างมากขึ้น พื้นที่ส่วนต่างๆ ของอาคารจึงได้รับการพัฒนา เพื่อให้มีรูปแบบที่ซับซ้อน และมีเอกลักษณ์ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว โดยเฉพาะกับวัสดุที่ใช้ห่อหุ้มอาคาร

Article

ทำไมวัสดุ ‘อลูมิเนียม’ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ในการใช้ปกป้องผิวอาคาร

จากการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้วัสดุ ‘อลูมิเนียม’ เป็นหนึ่งในวัสดุที่ถูกใช้งานมากที่สุด โดยเฉพาะกับในอุตสาหกรรมการก่อสร้างเป็น ‘วัสดุปิดผิวอาคาร’ ที่สามารถออกแบบได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่า